เมนู

ก็คือคำพูด. คำที่พูดเปล่าไม่มีประโยชน์ ชื่อว่า ปลาโป (พูดพร่ำ) พูดพร่ำ
จนน่าเกลียดด้วยอำนาจการพูดครึ่ง ๆ กลาง ๆ และพูดไปอย่างอื่นเป็นต้น เพราะ
เหตุนั้น จึงชื่อว่า วิปปลาปะ (ความพร่ำเพ้อ). บทว่า ลาลโป (ความ
พิไรร่ำ) ได้แก่ การพูดซ้ำซาก อาการแห่งการพูดซ้ำซาก ชื่อว่า ลาลปนา
(กิริยาที่พิไรร่ำ). ภาวะแห่งกิริยาพิไรร่ำ ชื่อว่า ลาลปฺปิตตฺตํ (สภาพพิไร
ร่ำ).
คำว่า อยํ วุจฺจติ ปริเทโว (นี้เรียกว่า ปริเทวะ) ความว่า นี้เรา
กล่าวให้ ชื่อว่า ปริเทวะ. ปริเทวะนั้น ลาลปฺปนลกฺขโณ มีการพิลาป
รำพันเป็นลักษณะ คุณโทสปริกิตฺตนรโส มีการรำพันถึงคุณและโทษเป็น
กิจ สมฺภมปจฺจุปฏฺฐาโน มีความวุ่นวายไม่ตั้งมั่นเป็นปัจจุปัฏฐาน.*

พึงทราบอรรถแห่งปริเทวะเป็นทุกข์


อนึ่ง พึงทราบวินิจฉัยในข้อว่า พึงทราบอรรถแห่งปริเทวะเป็นทุกข์
ต่อไป. ปริเทวะแม้นี้ตัวเองไม่เป็นทุกข์ แต่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่าเป็น
ทุกข์ เพราะความเป็นวัตถุที่ตั้งแห่งทุกข์กายและทุกข์โทมนัส.
จริงอยู่ บุคคลผู้กำลังคร่ำครวญย่อมเอากำปั้นทุบลำตัวของตนได้ ย่อม
เอามือทั้ง 2 ตีอก ขยี้อก ย่อมเอาหัวชนฝาก็ได้ เพราะเหตุนั้น ทุกข์กาย
อย่างแรงจึงเกิดแก่เขาได้ เขาย่อมคิดเป็นต้นว่า ญาติของเราเท่านี้สิ้นแล้ว เสื่อม
แล้ว ตั้งอยู่ไม่ได้แล้ว เพราะฉะนั้น โทมนัสอย่างแรงจึงเกิดขึ้นแก่เรา.
* และคำว่า โทสจิตฺตชมหาภูตปทฏฺฐาโน มีมหาภูตรูปที่เกิดแต่โทสจิต เป็นปทัฏฐาน ท่าน
ไม่ได้กล่าวไว้ในที่นี้.